

ซุ้มประตูอุโบสถและ กำแพง มีการตกแต่งอย่างงดงามครับ
หากใครอยากลองกำลังของตัวเองก็สามารถ ขึ้นบันได ได้นะครับ ส่วนใครไม่สะดวกก็สามารถขับรถไปจอดบนยอดเขาได้ครับ
หากใครอยากลองกำลังของตัวเองก็สามารถ ขึ้นบันได ได้นะครับ ส่วนใครไม่สะดวกก็สามารถขับรถไปจอดบนยอดเขาได้ครับ

พอเริ่มพิธีบวช นาคที่เข้าบวชพระก็จะกราบพระ และอุ้มผ้าเข้าไปหาพระอุปัชฌาย์ แล้วกล่าวคำของบวช แบบ เอสาหัง.....

นุ่งห่มผ้าเรียบร้อยแล้วก็มาเข้ามาขอศีล 10 กับพระภิกษุ โดยจะต้องขอทีละรูปตามธรรมเนียม
การบวชสามเณร (ผู้บวชพระจะบวชเป็นสามเณรก่อนครับ)

หลังจากขอสมาทานศีล 10 เรียบร้อย ก็ให้บิดามารดาถวายบาตรให้กับสามเณรที่จะอุปสมบทเป็นพระภิกษุ เสร็จแล้วก็เข้าไปหาพระอุปัชฌาย์แล้ว แล้ว ขอนิสสัย...... (ตามบทสวดในคู่มือบวช) แล้วจากนั้นก็จะเป็นพิธีสงฆ์ที่พระอุปชฌาย์และพระคู่สวดดำเนินการตามขั้นตอน
เมื่อพระคู่สวด สวดตั้งญัตติ ....... พระอุปัชฌาย์ดำเนินตามขั้นตอนแล้ว สุดท้ายก็เป็นการให้พร (กรวดน้ำ รับพร) แต่ผู้ที่เข้าบวชและผู้มาร่วมงาน ก็เป็นการเสร็จสิ้นการอุปสมบทของพระภิกษุครับ
สำหรับผมการไปร่วมงานครั้งก็มีความสุขมากครับ เพราะได้ทำบุญร่วมงาน ที่เพื่อนผมพาไปก็เข้าบวชสองรูป บวชพระ 1 รูป บวชสามเณร 1 รูป ทางคณะเจ้าภาพทางวัดวัดอีก 1 รูปครับ
พระอุปัชฌาย์ที่มาบวชให้ท่านก็อายุมากนะครับ ทราบมาว่า ท่านอายุ กว่า 90 ปีครับ แต่ยังแข็งแรงดีครับ
ส่วนใครจะเข้าบวชในช่วงเข้าพรรษนี้ก็ เตรียมความพร้อมทั้งกายให้ดีพร้อมนะครับ แล้วท่านจะได้บุญกุศลที่ใหญ่หลวง เป็นตอบแทนคุณบิดามารดา เหมือนกับคำโบราณที่กล่าวว่า "การบวชลูกชายเป็นการเกาะชายผ้าเหลืองลูกขึ้นสวรรค์" ครับ