สวัสดีครับ พรุ่งนี้แล้วก็จะเป็นวันแม่แห่งชาติ วันแห่งความกตัญญูกตเวทีของลูก ๆ ทุกคน ซึ่งหลาย ๆ คนก็จะได้เดินทางไปพบหน้า ไปกราบมารดาและครอบครัว แต่อีกหลายคนก็คงต้องพบกันในโลกออนไลน์ผ่านโซเซียลมีเดียต่าง ๆ และวันพรุ่งนี้ก็ยังเป็นวันสารทจีน วันที่คนไทยเชื้อสายจีนได้แสดงความเคารพและกตัญญูต่อบรรพบุรุษ
พูดถึงวันสารทแล้ว ก็มีวันสารทของชาวไทยหลายเชื้อชาติ ซึ่งอาจจะอยู่คนละวัน คนละช่วง ได้แก่ วันสารทจีน ตรงกับวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 9 (ปฏิทินของไทย) วันสารทลาว ตรงกับวันขึ้น 15 ค่ำเดือน 10 และวันสารทไทย ตรงกับวันแรม 15 ค่ำ เดือน 10
เมื่อย่างเข้าปลายฤดูจึงเก็บเกี่ยวพืชผล ชาวนาถือโอกาสนี้นำพืชผลที่เก็บเกี่ยวได้มาทำบุญอุทิศส่วนกุศล
ให้แก่ผู้ที่ล่วงลับไปแล้ว เช่น ทำกระยาสารท กระยาสารท คือของกินที่ทำด้วยข้าวเม่า ข้าวตอก ถั่ว งา
กวนกับน้ำตาลน้ำอ้อย. การทำบุญนี้จึงเรียกว่า ทำบุญสารท หรือ สารท. ในประเทศไทยเรียกการทำบุญนี้
ว่า สารท หรือ สารทเดือนสิบ คือเทศกาลทำบุญในวันสิ้นเดือน 10 ทางจันทรคติ ซึ่งตกอยู่ในราวเดือนกันยายน (ที่มา สำนักงานราชบัณฑิตยสภา )
วันสารทจีน ถือเป็นวันสำคัญที่ลูกหลานชาวจีนจะแสดงความกตัญญูต่อบรรพบุรุษ โดยมีพิธีเซ่นไหว้ มีการจัดชุดเครื่องไหว้เป็นอาหารคาวหวาน มีของหวานขนมไหว้ ได้แก่ ขนมเทียน ขนมเข่ง ซึ่งจะมีจุดสีแดงแต้มไว้ตรงกลางเพราะชาวจีน เชื่อว่าสีแดงสีแห่งความเป็นศิริมงคล และก็มีผลไม้ น้ำชา หรือเหล้าจีน และกระดาษเงิน กระดาษทอง
วันสารทลาว ถือเป็นประเพณีที่ชาวอิสาน ถือเป็นวันที่แสดงความกตัญญูต่อบรรพบุรุษผู้ที่ล่วงลับไปแล้ว มีการจัดทำการกวนข้าวกระยาสารท หรือ กระยาสารททิพย์ ที่นำไปทำบุญอุทิศ และมอบให้กับบุคคลในชุมชน ญาติพี่น้อง
วันสารทไทย หรือการทำบุญเดือนสิบ เป็นวันรวมญาติในครอบครัว ร่วมกันทำบุญอุทิศส่วนกุศลไปให้บรรพบุรุษที่ล่วงลับไปแล้ว รวมถึงสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่เคารพนับถือ ที่จะช่วยดลบันดาลให้ครอบครัวอยู่เย็นเป็นสุข ฝนฟ้าตกตามฤดูกาล พืชพรรณธัญญาหารอุดมสมบูรณ์
จากทั้งวันสารทต่าง ๆ ของไทยที่ยังคงยึดถือปฏิบัติกันมาอย่างยาวนาน ๆ จนปัจจุบันนี้ถือเป็นประเพณีที่มีการจัดกิจกรรมประกอบเพิ่มเติมขึ้นมาอย่างมากมาย การที่ได้รับอิทธิพลของพระพุทธศาสนา ศาสนาพรามณ์ จึงทำให้ความเชื่อเรื่องความกตัญญูกตเวที เป็นเสมือนดังข้อปฏิบัติในวิถีชีวิตของคนในสังคมไทย ที่ต้องรู้บุญคุณ ในสิ่งที่ให้คุณประโยชน์กับเรา เช่น พ่อแม่ช่วยเหลือมา เราก็รู้บุญคุณของท่าน ครูได้สั่งสอนให้เรารู้อ่านเขียนได้ เราก็รู้บุญคุณ ต้นไม้ ดิน แม่น้ำ ให้คุณประโยชน์กับเรา เราก็รู้บุญคุณ ดังนั้นจึงเกิดเป็นประเพณี วัฒนธรรมที่มีการปฏิบัติสืบต่อกับในหลายเรื่อง เช่น การทำบุญข้าวประดับดิน บูชาพระแม่ธรณี การลอยกระทงบูชาพระแม่คงคา เป็นต้น
เมื่อเรารู้บุญคุณแล้วก็แสดงออกตอบแทนท่าน ที่เรียกว่า กตเวที เช่นการเลี้ยงดูแลพ่อแม่ การช่วยเหลือครูอาจารย์ การทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา และอีกมากมาย ซึ่งสิ่งเหล่านี้ก็จะอยู่ชาวไทยไปอีกนานจนกว่าสังคมจะมีการเปลี่ยนแปลงไป...จึงคำกล่าวเป็นพุทธศาสนสุภาษิตที่ว่า