สวัสดีครับ เมื่อวันที่ 22 กันยายน 2561 ได้มีโอกาสเดินทางไปทัศนศึกษาตามเส้นทางประวัติศาสตร์อยุธยา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา อันเป็นสถานที่ตั้งของโบราณสถานที่สำคัญตามประวัติศาสตร์ของชาติไทย คำขวัญจังหวัดพระนครศรีอยุธยา
ด้วยความที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เป็นราชธานีเก่า จึงมีโบราณสถานที่สำคัญหลายแห่ง ซึ่งสถานที่แรกนี้ก็คือ
วัดใหญ่ชัยมงคล 40/3 หมู่ที่ 3 ตำบลคลองสวนพลู อำเภอพระนครศรีอยุธยา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เดิมชื่อวัดป่าแก้วหรือวัดเจ้าพระยาไท เป็นวัดที่เก่าแก่วัดหนึ่ง สร้างขึ้นในสมัยอยุธยาตอนต้น คือในรัชสมัยของสมเด็จพระรามาธิปดีที่ 1 หรืออีกพระนามหนึ่งคือ สมเด็จพระเจ้าอู่ทอง พระมหากษัตริย์ผู้สถาปนากรุงศรีอยุธยา
" ราชธานีเก่า อู่ข้าวอู่น้ำ
เลิศล้ำกานท์กวี คนดีศรีอยุธยา "
เลิศล้ำกานท์กวี คนดีศรีอยุธยา "
ด้วยความที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เป็นราชธานีเก่า จึงมีโบราณสถานที่สำคัญหลายแห่ง ซึ่งสถานที่แรกนี้ก็คือ
วัดใหญ่ชัยมงคล 40/3 หมู่ที่ 3 ตำบลคลองสวนพลู อำเภอพระนครศรีอยุธยา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เดิมชื่อวัดป่าแก้วหรือวัดเจ้าพระยาไท เป็นวัดที่เก่าแก่วัดหนึ่ง สร้างขึ้นในสมัยอยุธยาตอนต้น คือในรัชสมัยของสมเด็จพระรามาธิปดีที่ 1 หรืออีกพระนามหนึ่งคือ สมเด็จพระเจ้าอู่ทอง พระมหากษัตริย์ผู้สถาปนากรุงศรีอยุธยา
วัดใหญ่ชัยมงคลยังมีความผูกพันกับประวัติศาสตร์สมัยสมเด็จพระนเรศวรมหาราชด้วย กล่าวคือ ในปีพ.ศ. 2135 เมื่อสมเด็จพระนเรศวรมหาราชทรงทำศึกยุทธหัตถีชนะพระมหาอุปราชแห่งพม่าที่ตำบลหนองสาหร่าย เมืองสุพรรณบุรี ทรงสร้างพระเจดีย์ใหญ่ขึ้นที่วัดนี้เป็นอนุสรณ์แห่งชัยชนะ การสร้างพระเจดีย์อาจสร้างเสริมพระเจดีย์เดิมที่มีอยู่หรืออาจสร้างใหม่ทั้งองค์ก็ได้ ไม่มีหลักฐานแน่นอน ขนานนามว่า “พระเจดีย์ชัยมงคล” แต่ราษฎรเรียกว่า “พระเจดีย์ใหญ่” ฉะนั้นนานวันเข้าวัดนี้จึงเรียกชื่อเป็น “วัดใหญ่ชัยมงคล” ทว่าเมื่อคราวเสียกรุงศรีอยุธยาครั้งที่ 2 บ้านเมืองถูกกองทัพพม่าเผาทำลาย วัดใหญ่ชัยมงคลจึงถูกทิ้งร้างไปในที่สุด ต่อมาในสมัยรัตนโกสินทร์จึงมีการบูรณปฏิสังขรณ์และมีภิกษุสงฆ์จำพรรษาดังเช่นในปัจจุบัน (ที่มา https://thai.tourismthailand.org/สถานที่ท่องเที่ยว/วัดใหญ่ไชยมงคล) ซึ่งจากการสอบถามเจ้าหน้าที่ที่อยู่ประจำพระปางไสยยาสน์ได้ทราบข้อมูลว่ามีประพระมาจำพรรษา เมื่อ พ.ศ. 2500 และเริ่มบูรณะวัด พ.ศ.2508