02/06/2557

laemson viewpoint-laemson beach-จุดพักผ่อน-จุดชมวิวแหลมสน-สถานที่พักผ่อน-ชมวิว-ริมทะเล-ปากแม่น้ำประแสร์

          สวัสดีครับ เมื่อขับรถผ่านมาที่ปากน้ำประแสร์ จุดรถชมวิวบนสะพานจนสุขใจแล้ว ก็เดินทางต่อสุดปลายสะพานแล้วเลี้ยวซ้าย เข้าสู่จุดชมวิวแหลมสน laemson viewpoint ซึ่งเราจะสามารถชมทั้งทะเลกว้าง หาดทรายสำหรับการเดินนวดเท้า สัมผัสทรายกันอ่อนนุ่ม ชมแสงพระอาทิตย์ รวมทั้งหาหอย ในวันที่ผมไปนั้นได้พบกับหาดทรายที่กว้างมาก เนื่องเป็นช่วงที่น้ำลง ชาวบ้านกำลัง หาหอยกันอยู่หลายคน ท้องฟ้าสีครามสวยมาก ผมนั่งซักพักก็อดใจไม่ได้หยิบกล้องขึ้นมาถ่ายรูปความงดงามของธรรมชาติของปากน้ำประแสร์และทะเลอ่าวไทยมาแบ่งทุกท่านได้ชม จะได้สมกับการที่การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยได้ตั้งสโลแกนในช่วงนี้ว่า " หลงรักประเทศไทย "

ภาพนี้เป็นบริเวณปากแม่น้ำ  ทางเข้าออกของเรือประมง บริเวณนั้นจะมีีล่องน้ำลึกสำหรับเป็นช่องเดินทางของเรือประมง

View of Pak Num Prasae-ทัศนียภาพ-มอง-ชมวิว-บริเวณปากน้ำประแสร์

          การเดินทางเป็นความสุขอย่างหนึ่ง เป็นการเรียนรู้และพบเห็นสิ่งใหม่อย่างในการเดินทางแต่ละครั้งของผมก็เช่นก็จะไดรับประสบการณ์ใหม่เพิ่มขึ้นเรื่อย และในครั้งนี้ผมเองก็ได้พบกับเส้นทางการเดินทางจากจากแหลมแม่พิมพ์ ระยอง ไปสู่จังหวัดจันทบุรีและตราด และเป็นเส้นทางในการท่องเที่ยวเรียนรู้ของผมในครั้งนี้ เส้นทางนี้คือ ถนนเฉลิมบูรพาชลทิต ที่พาผมลัดเลาะตามชายฝั่งทะเล สองฝั่งของถนนก็จะพบกับป่าชายเลน  ฟาร์มเลี้ยงกุ้ง หอยบางถือเป็นอีกบรรยากาศหนึ่งที่ไม่ได้พบหากเดินทางไปตามถนนสาย 3 หรือ ถนนสุขุมวิท
          แต่สุดที่ผมจะนำเสนอในวันนี้เป็นภาพบรรยากาศที่เรามองจากบนสะพานสูง มองชมวิวทิวทัศน์ของปากประแสร์ ซึ่งในบริเวณปากน้ำประแสร์นี้ก็จะมีแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญ เช่น การเดินชมป่าชายเลยของชุมชน การพักชมเรือหลวงประแสร์ การพักผ่อนริมชายหาดบริเวณหาดแหลมสน การกราบเคารพศาลสมเด็จกรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ หรือหากท่านไม่มีเวลา ก็สามารถมาจอดชมทัศนีย์ภาพของบริเวณปากแม่น้ำประแสร์อย่างผมก็ได้นะครับ  ลองมาชมภาพและสูดบรรยากาศอันสดชื่นกันนะ
 หากมองจากฝั่งปากแม่น้ำเข้าไปเราก็จะพบกับความกว้างใหม่ของแม่น้ำประแสร์ เรือประมงกำลังกลับเข้าเทียบท่า ปาชายเลนที่ได้รับการดูแล และการเลี้ยงหอย

30/05/2557

My-picture-in-memories-ย้อนหลัง-ภาพแห่งความทรงจำ-เมื่อวันวาน

          สวัสดีครับ วันนี้ขอย้อนรอยความหลังซักนิดนึงนะ ทุกท่านเคยสังเกตุมัยครับว่าสิ่งที่เราพบเราเห็นในแต่ละวันนั้นจะไม่ค่อยเหมือนกันเลย ซึ่งอาจจะมาอาจมุมมองของเรา หรือ แสงแดดอันร้อนแรงของพระอาทิตย์หรืออะไรก็ไม่รู้เหมือนกัน แต่สิ่งที่ผมค้นพบก็คือความประทับในอดีตนั้นก็ยังสร้างความประทับใจและเป็นบันดาลใจให้เราได้ทำในสิ่งต่างๆมากเพิ่มมากขึ้น
          ลองมาชมภาพถ่ายที่ผมได้เคยถ่ายไว้ในอดีต ซึ่งจริงๆแล้วทุกภาพก็ถูกบันทึกเรื่องราวไว้ในบล็อกนี้แล้ว หากสนใจก็ลองค้นดูในบล็อได้นะครับ

          ภาพแรกนี้ เป็นภาพดอกสาละ เป็นภาพแรกที่สร้างความประทับใจของผมในสมัยนั้นและสมัยนี้ ผมเคยลองส่งภาพนี้เข้าประกวด ปรากฏว่าทางเว็บไซต์ที่ประกวดภาพเขาสนใจจึงให้ผมเขียนคำอธิบาย ในตอนนั้นผมก็ยังไม่ค่อยเข้าใจเท่าไหร่ ก็เลยไม่เขียน ปล่อยเลยตามเลยจนเงียบไป (เขาสงเมล์มาตามผมทุกอาทิตย์) แต่ภาพนี้แหละที่ทำให้เกิดเว็บนี้ขึ้นมา ถ้านับมาถึงตอนนี้เว็บก็มีอายุประมาณ 4 ปีแล้วครับ และก็จะพัฒนาต่อไปเรื่อย
ภาพที่สองนี้ เป็นภาพ ท่าเรือที่บ้านเพ เป็นช่วงที่ลองใช้โทรศัพท์ nokia lumia 520 ซึ่งได้มาใหม่ ลองถ่ายภาพ ผมเองเคยเห็นภาพท่าเรือในตอนกลางวันแล้ว แต่ภาพนี้ถ่ายในตอนกลางคืนโดยไม่มีแฟลชช่วย  ก็ได้ภาพแบบนี้ ผมเองก็ว่าสวยอีกแบบหนึ่งครับ นับจากนั้นมาก็ได้ใช้มาโดยตลอด(ยังไม่มีตังค์ซื้อใหม่ เลยยังไม่เปลี่ยน..อิอิ)

27/05/2557

sea-khungviman-beach-paknamlaemsing-bridge-view-วิว-ทะเล-สวย-จาก-คุ้งวิมาน-และบนสะพานปากน้ำแหลมสิงห์

          สวัสดีในวันอังคาร วันสีชมพูแห่งความรัก ครั้งนี้ผมมีภาพวิวทะเลที่สวยงามขึ้นชื่อของจันทบุรีมาแบ่งบันนักท่องเทียวผู้ชื่นชมธรรมชาติยามกลางวัน สีครามแสนสุดสวย แม้ว่าภาพที่ผมถ่ายมาจะไม่ค่อยสวยก็ตาม  ทะเลที่จะนำมาให้ดูในวันนี้ก็คือ คุ้งวิมาน ที่จังหวัดจันทบุรี ผมเองนั้นไม่ได้ตั้งใจไปเที่ยวหรอกนะครับ แต่บังเอิญหลงทาง ความตั้งใจของผมก็คือ จะไปเยี่ยมลูกชายที่ อำเภอ เขาสมิง  จังหวัดตราด โดยผมขับรถใช้เส้นทาง จากแยกประแสร์ อำเภอแกลง จากนั้นก็ขับรถใช้เส้นทางถนนบูรพาชลทิต เพราะเส้นทางสะดวก และไม่ค่อยมีรถวิ่งด้วย หลังจากนั้นก็ขับเลี้ยวไปเลี้ยวมาตามป้ายบอก  ผมก็ไปถึงคุ้งวิมาน  ครับ สรุปว่า หลงทางนั่นเอง (หากใครจะไปตราดโดยใช้เส้นทางนี้ จะต้องวิ่งไปตามป้ายบอกทางไปแหลมสิงห์นะครับ)
เมื่อหลงทางมาแล้วก็เลยขับรถต่อไปตามเส้นทางภายในคุ้งวิมาน เพื่อชมความงามของทะเล หาดต่างๆของคุ้งวิมาน ซึ่งก็มีนักท่องเที่ยวมาเที่ยวธรรมชาติมากพอสมควร  เวลาที่ผมไปชมนั้น 12.00 น. นะครับ อากาศร้อนมากเลยล่ะ