โดยประเพณีโบราณจะทำบุญในสองช่วง ช่วงเช้าก็จะทำบุญถวายทานแก่พระภิกษุสงฆ์ ซึ่งเป็นทานบารมีสิริมงคลให้กับตนเอง
ในช่วงเพลชาวบ้านก็นำอาหารคาวหวานไปทำบุญที่วัดอีกครั้ง และช่วงนี้จะทำบุญอุทิศให้กับพ่อแม่ปู่ย่าตายาย ญาติพี่น้องที่ล่วงไปแล้ว พระสงฆ์จะทำการบังสุกุลให้ด้วย ถือเป็นการแสดงความกตัญญูกตเวทีต่อผู้มีพระคุณแม้จะล่วงลับไปแล้ว
โดยในความเชื่อกล่าวกันว่าวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 10 เป็นวันพระใหญ่ ขุมนรก สวรรค์ทุกชั้นจะเปิด ให้ภูตผีทุกตนได้มีโอกาสมาพบกับญาติพี่น้องที่ยังมีชีวิตอยู่ เพื่อที่จะได้มารับส่วนบุญส่วนกุศล ที่ลูกหลาน ญาติจะทำบุญแจกข้าวไปให้ โดยจะมีการกวนข้าวกระยาสารท และจัดหาผลไม้ อาหารคาวหวานไปประกอบพิธีบุญตามประเพณีที่เชื่อกันว่า บรรพบุรุษปู่ ย่า ตา ยาย และญาติพี่น้องที่ล่วงลับไปแล้ว หากทำความดีไว้เมื่อครั้งยังมีชีวิตอยู่ จะได้ไปเกิดในสรวงสวรรค์ แต่หากทำความชั่ว ก็จะตกนรกกลายเป็นเปรต ต้องทนทุกข์ทรมานในอเวจี ต้องอาศัยผลบุญที่ลูกหลานอุทิศกุศลไปให้ในแต่ละปีเพื่อยังชีพในขุมนรก หากลูกหลานไม่ทำให้ก็จะไม่มีอะไรยังชีพ ถือเป็นคติความเชื่อสืบกันมาว่า ญาติที่ล่วงลับไปแล้ว จะมีโอกาสได้กลับมารับส่วนบุญได้เต็มที่ และมีโอกาสหมดหนี้กรรม และได้ไปเกิดหรือมีความสุขตลอดไป
เครดิต : ความเชื่อวันสารทลาวจาก https://www.nationtv.tv/news/378841001